เห็นข่าวราคาพริกแพงพุ่งขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 400 บาท แทบไม่กล้าสั่งเมนูแซ่บๆ ทาน เพราะกลัวจะแซ่บไม่ถึงใจหรือบวกราคาพริก (ล้อเล่น) ถ้าพริกแพงแบบนี้ ในฐานะผู้บริโภคเรามาหาทางแก้ปัญหาเบื้องต้นกันดีกว่า เพราะจริงๆ แล้วพริกก็เป็นหนึ่งในผักสวนครัวที่เราสามารถปลูกไว้ในทานในบ้านได้ไม่ยาก มาดูกันว่าวิธีปลูกพริกนั้นจะทำอย่างไรบ้าง
istockphoto
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
-เมล็ดพริก
-ดินร่วนปนทราย
-น้ำอุ่น
-ภาชนะสำหรับแช่เมล็ดพริก
-ภาชนะสำหรับเพาะต้นกล้า
-กระถางสำหรับปลูก เลือกที่มีขนาดใหญ่เพียงพอกับการเติบโตของต้นพริก
-ปุ๋ย
-อุปกรณ์ปลูกต้นไม้
istockphoto
วิธีเตรียมเพาะต้นกล้า
-นำเมล็ดพริกที่เตรียมไว้สำหรับเพาะกล้าไปแช่ในน้ำอุ่นแล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน จากนั้นนำออกมาผึ่งแดดก่อนแกะเมล็ดพริกแล้วนำไปเพาะเป็นต้นกล้า
-ผสมดินร่วนปนทรายเข้ากับปุ๋ยลงในภาชนะสำหรับเพาะต้นกล้า โดยเจาะดินเป็นรูแล้วหยอดเมล็ดลงไปในหลุม จากนั้นกลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม นำภาชนะที่เพาะต้นกล้าไปวางไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึง
-สังเกตการเติบโตของต้นกล้า หากต้นกล้าเริ่มมีใบออกมาให้เห็นแสดงว่าสามารถย้ายต้นกล้าลงไปปลูกในกระถางได้แล้ว โดยให้เลือกต้นกล้าที่แข็งแรงที่สุดมาปลูกในกระถางที่เตรียมไว้
istockphoto
วิธีปลูกพริก
-นำกล้ามาปลูกในกระถางที่เตรียมดินเอาไว้ แล้วรดน้ำให้ชุ่มแต่ไม่แฉะ อย่าลืมว่าพริกเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด ดังนั้นอย่านำไปวางทิ้งไว้ในร่ม ช่วงแรกรดน้ำพริกอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันทุกวัน แต่หลังจากพริกเริ่มติดดอกมีเม็ดพริกออกมาก็ให้เว้นช่วงเวลาการรดน้ำ ไม่ต้องถี่เหมือนช่วงแรก
-การดูแลต้นพริกนั้นไม่มีอะไรมาก แค่ต้องรดน้ำให้ชุ่ม พรวนดิน กำจัดพวกวัชพืชที่อาจขึ้นมารบกวนในกระถาง ที่สำคัญต้องไม่ให้ดินแฉะและต้องให้แดดส่องถึง
-ถ้าดูแลพริกดี ไม่มีน้ำขังที่กระถางจนทำให้เกิดเชื้อรา พริกก็จะให้ผลผลิตหลังจากปลูกเพียงแค่ 2-3 เดือนเท่านั้น
คราวนี้เราก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าราคาพริกจะพุ่งไปที่ราคากิโลกรัมละเท่าไร ถ้าผลผลิตของเราดี เผลอๆ จากการปลูกแค่ในกระถางอาจเปลี่ยนเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้โดยการขยายพื้นที่การปลูกได้อีกด้วย
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น