แนะนำ 4 ต้นไม้เหมาะสำหรับปลูกไว้ในห้องครัว โตได้ไม่กลัวความร้อน

หลายคนรู้สึกว่า “ห้องครัว” คือหัวใจของบ้าน ดังนั้นนอกจากการบรรจงเลือกเฟอร์นิเจอร์ เครื่องครัว ของใช้ต่างๆ แล้ว อาจรู้สึกว่าการนำต้นไม้ไปปลูก หรือประดับในครัวก็จะช่วยตกแต่งห้องครัว และทำให้บรรยากาศภายในครัวกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าใช้เวลาอยู่นานๆ แต่เนื่องจากในห้องครัวมีความร้อน จะมีต้นไม้สักกี่ชนิดที่ทนความร้อนได้ และต่อไปนี้คือต้นไม้ที่ทนความร้อนและสามารถใช้ตกแต่งหรือปลูกไว้ในห้องครัวได้

1.ว่านหางจระเข้

เป็นต้นไม้สุดยอดอมตะเพราะมันคือต้นไม้ที่ยากจะฆ่าให้ตายได้ นอกจากนั้นพืชชนิดนี้ยังสวยงามโดดเด่นอุดมด้วยวิตามินที่เป็นประโยชน์กับผิว และที่พืชชนิดนี้เหมาะสำหรับปลูกไว้ในห้องครัว โดยเฉพาะถ้าตั้งไว้ใกล้เตาหากเกิดน้ำร้อนลวก เป็นแผลจากไฟ สามารถตัดใบว่านหางจระเข้และนำเจลจากใบนั้นมาประคบที่แผลลดอาการพองได้ทันที

2.เศรษฐีเรือนใน

ต้นไม้อีกชนิดหนึ่งที่ดูแลง่าย โดยสามารถวางต้นไม้นี้ไว้ที่ใดที่หนึ่งของห้องครัวก็ได้ จะใกล้หน้าต่าง หรือวางบนเคาน์เตอร์ หรือเหนือตู้เก็บของ วิธีการดูแลก็แค่เพียงรดน้ำบ้างเป็นครั้งคราว สำหรับเหตุผลที่ควรปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ในห้องครัวก็คือเป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดกลิ่น และมลพิษที่เกิดจากในห้องครัวได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือมันช่วยฟอกอากาศได้เป็นอย่างดี

3.ต้นนกกระทา

เราสามารถปลูกต้นนกกระทาไว้ในตะกร้าหรือกระถาง ใบสีเขียวของต้นนกกระทาจะช่วยทำให้ห้องครัวมีสีสันมากขึ้น จะห้อยมันไว้ก็ได้ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่ และทำให้ห้องครัวดูดีขึ้นอีกด้วย

4.ต้นแก้วกาญจนา

เป็นพืชเขตร้อน ที่สามารถปรับตัวและอยู่ในสภาพร้อนและแสงน้อยได้ ใบสีเขียวและแถมขาวของมันทำให้ห้องครัวดูสดชื่นขึ้น คุณสมบัติพิเศษของต้นแก้วกาญจนาก็คือเป็นต้นไม้ที่ดูดสารพิษภายในห้องครัวได้

ที่มา:sanook

5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนปลูก “สวนผักออร์แกนิค” สวนผักเพื่อสุขภาพคู่ครัวเรือน

เทรนด์รักสุขภาพได้กลายมาเป็นกระแสหนึ่งของสังคมไทย หลายๆ คนจึงเริ่มที่จะหันมาปลูกผักออร์แกนิค หรือผักปลอดสารพิษ ไว้บริโภคเองที่บ้านกันมากขึ้น เพื่อจะได้มั่นใจว่าผักที่ทานนั้นปลอดภัยต่อร่างกายจริงๆ

และใครที่กำลังอยากจะปลูกผักออร์แกนิคไว้ในสวนหลังบ้านตัวเอง ลองมาชม 5 เคล็ดลับสำหรับปลูกผักออร์แกนิค ที่ ในบ้าน นำมาฝากเพื่อนๆ กันคราวนี้ครับ หากคุณเป็นมือใหม่ในเรื่องการปลูกผักจัดสวนล่ะก็ ตามมาเก็บความรู้กันเลยครับ

1. 

1.แสงแดดคือสิ่งสำคัญ

หากต้องการให้สวนผักของเราเจริญงอกงามสมใจ จะต้องคำนึงถึงปริมาณแสงแดดที่ผักได้รับ ซึ่งอย่างน้อยๆ พื้นที่บริเวณแปลงปลูกผัก ควรจะได้รับแสงแดดประมาณวันละ 4 – 8 ชั่วโมง

2. ขนาดพื้นที่สวน

หากคุณคือมือใหม่ในการปลูกผักออร์แกนิค ควรเริ่มจากพื้นที่ปลูกขนาด 50 – 100 ตารางฟุต (ราว 5 – 10 ตารางเมตร) แนะนำให้เริ่มจากขนาดเล็กๆ ก่อน เพื่อที่จะได้ดูแลผักของคุณได้อย่างทั่วถึง และหากใช้พื้นที่ใหญ่เกินไป ก็อาจจะทำให้เรารู้สึกท้อแท้ในการดูแลต้นไม้ก็เป็นได้

หรือหากเพื่อนๆ ไม่มีพื้นที่เพียงพอ ก็อาจจะทำเป็นสวนผักแนวตั้งโดยใช้วัสดุอื่นๆ มาช่วยเสริมเป็นภาชนะสำหรับปลูก เช่น ท่อไม้ไผ่ หรือท่อ PVC ฯลฯ

3. ดินที่ดี

ผลผลิตที่ดี ย่อมมาจากดินที่ดี แนะนำให้บำรุงดินโดยใช้ใบไม้และหญ้าฟางเอามาคลุมหน้าดิน และรดน้ำให้พอชุ่มชื้น จะทำให้ได้ดินที่มีคุณภาพ เหมาะแก่การเติบโตของผักออร์แกนิค

4. การเลือกพันธุ์ผัก

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำสวนผักออร์แกนิค ควรปลูกผักไม่กี่ชนิด และไม่ควรกักตุนพันธุ์ผักไว้เยอะๆ แนะนำให้ปลูกเฉพาะที่ตัวเองชอบทานจริงๆ เท่านั้น

5. การใช้ปุ๋ย

การบำรุงดินด้วยการใช้ปุ๋ย จะช่วยเพิ่มแร่ธาตุให้ดิน ส่งผลให้ผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งปุ๋ยที่จะต้องเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ที่ไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

ที่มา:sanook

The Delightful พื้นที่แห่งความสดชื่น

ด้วยโจทย์หลักที่เริ่มจากความต้องการขยายพื้นที่ทำงานในบ้านออกมารับวิวสวน  เราจึงเลือก "Studio shelter" ให้เป็นฟังก์ชันหลัก วางตำแหน่งให้ต่อเนื่องกับบ้านเพื่อให้เข้าถึงและใช้งานง่ายเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน โดยใช้พื้นที่ด้านข้างบ้านอย่างคุ้มค่า

ตัว Shelter เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยรายละเอียด วางตำแหน่งต่อเนื่องกับลานชิงช้า และลานกรวดต่างระดับ ผนังระแนงบังตาสีเทาอ่อนทำหน้าที่เป็นฉากหลัง ให้ต้นซิลเวอร์โอ๊คและชิงช้าดูโดดเด่นยิ่งขึ้น

ประตูกระจกบานเฟี้ยมขนาดใหญ่ สูงจรดเพดาน

เปิดรับวิวสวนได้อย่างเต็มตา

เมื่อมองออกมาจากภายใน Studio shelter

สวนด้านหน้าบ้าน สร้างทางเดินจากประตูเล็กเข้าสู่ตัวบ้านด้วยหิน Cobble stone

ขนาบสองข้างทางเดินด้วยสีเขียวต่างโทนจากชาฮอกเกี้ยน

และโรสแมรี่ ที่นำสายตาเข้าสู่สวน

ลีฟวิ่งเทอเรส (Living Terrace) หน้าบ้าน ปูพื้นด้วยไม้สีโทนอุ่นสบายตา

ม้านั่งคอนกรีตปรับมุมรับหลัง นั่งสบาย ใต้เงาต้นเมเปิ้ลใบโปร่งๆ สบายตา

ยกระดับลีฟวิ่งเทอเรส ให้สูงใกล้เคียงกับตัวบ้านหลัก

ทำให้ทั้งมุมมองจากภายในบ้านและการใช้งานจริงเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวกัน

สวนโดยรวมแม้จะใช้โทนสีเทาเป็นหลัก แต่เมื่อวางของตกแต่งสวนที่เป็นสีโทนอุ่นท่ามกลางสีเขียวของแปลงต้นไม้ที่แทรกตัวอยู่กับทุกชิ้นงานอย่างมีจังหวะ ก็ทำให้สวนนี้ รู้สึกสบาย เป็นมิตร และดูอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ที่มา:sanook

ไอเดียการจัดตกแต่งสวนด้วยกระถางแขวนเพิ่มความสวยแนวตั้งให้สวน

วันนี้เรานำเสนออีกหนึ่งไอเดีย การออกแบบตกแต่งสวนสวยๆ มาฝากเพื่อนๆ โดยบทความนี้เราเอาไอเดียสวนแนวตั้ง โดยเรารวบรวมเอากระถางแนวตั้ง ในแบบการจัดตกแต่งสวนด้วย กระถางแขวน เพิ่มความสวยแนวตั้งให้สวน ใช้ได้ทั้งอาคารหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด หรือบ้านทั่วไป สวยงามแค่ไหนเราไปชมกัน 

ตัวอย่างของกระถางแขวนต้นไม้ ข้อดีคือสามารถแขวนไว้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้ง่าย โดยไม่ใช้พื้นที่มากเหมือนกระถางดอกไม้ต้นไม้ทั่วไป เหมาะสำหรับ ไว้ในในอาคารหรือคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด การจัดสวนแบบแขวนเป็นอีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจ สีเขียวชอุ่มสบายตาด้วยต้นไม้นานาพรรณ

ไอเดีย การจัดตกแต่งสวนด้วย กระถางแขวน เพิ่มความสวยแนวตั้งให้สวน

ที่มา:sanook

ต้นไม้ปลูกไว้คุณสมบัติไล่แมลงร้าย ไล่ยุงได้ปลอดภัยไร้สารพิษ

การไล่เจ้าแมลงกวนใจ อย่างยุงด้วยการปลูกต้นไม้ ที่มีคุณสมบัติไล่เจ้าแมลงร้าย ไล่เจ้ายุงในบ้านได้ ปลอดภัยไร้สารพิษ ห่างไกลจากโรคร้าย ที่มียุงเป็นพาหะ นอกจากนนี้ยังได้พื้นที่สีเขียวให้กับบ้าน ต้นไม้ที่มีฤทธิ์ไล่ยุง แมลง มีอะไรบ้างเราไปดูกัน

1.ตะไคร้หอม  (Citronella Grass, Sarah Grass) หรือตะไคร้แดง

พืชสมุนไพรจำพวกหญ้า ตะไคร้หอมสามารถปลูกลงดิน หรือ ปลูกตะไคร้หอมลงในกระถาง นำไปวางไว้ตามระเบียง ตามบ้านได้ ยุงจะค่อยๆ หนีจากบริเวณนั้นไป

2.กัญชาแมว แคทนิป

เจ้าสารเนเปทาแลคโตน (Nepetalactone) สารแห่งความสุขของน้องแมวตระกูลเดียวกับสะระแหน่ให้ผลดีต่อแมว และไล่ยุงได้ในขณะเดียวกันยังเป็นสารป้องกันยุงและแมลง ไม่เป็นอันตรายต่อคนอีกด้วย

3. โหระพา Thai Basil

อยู่คู่ครัวไทยมานาน สำหรับโหระพา ยุง และ แมลงจะไม่ชอบกลิ่นของโหระพา บริเวณที่ปลูก จึงไม่ค่อยมียุงบินหรือมารบกวน

4. สะระแหน่ Kitchen mint

เป็นพืชในตระกูลมินต์ วงศ์กะเพรา ปลูกลงแปลงดินก็ได้ลงกระถางก็ดี ภายในมีน้ำมันหอมระเหยที่ยุงไม่ชอบเอามากๆ ถ้าไปไหนมียุงมากวนใจ ใช้ให้นำใบสะระแหน่มาขยี้แล้วทาลงบนผิว

5.เจอเรเนียม หรือ ปากนกกระเรียน ( Geranium )

มันหอมระเหยของเจอเรเนียมที่มีกลิ่นคล้ายเลมอนก็จะฟุ้งกระจายออกมาช่วยไล่ยุงในเวลากลางคืน

6. กระเทียม

กลิ่นจากต้นกระเทียมก็จะทำหน้าที่ กันยุงออกจากบ้าน เพราะยุงไม่ชอบ

7.จิงจูฉ่าย White Mugwort

สุดยอดสมุนไพรจีนบำรุงเลือดลม แต่ไล่ยุงได้ด้วย ต้นไม้ที่มีกลิ่นหอมที่ยุงไม่ชอบและไม่กล้าบินเข้ามาใกล้

8.หม้อข้าวหม้อแกงลิง

nepenthes; ชื่อสามัญ: tropical pitcher plants หรือ monkey cups จะออกหม้อภายใน 6 เดือน ไม่ว่าจะยุงหรือแมลงไหน ๆ ที่บินติดกับก็จะโดนงับ

9. มะกรูด

นำน้ำมันหอมระเหยในมะกรูดจะช่วยส่งกลิ่นฉุนไปรบกวนและป้องกันยุงไม่ให้บินเข้ามายุ่งในบ้าน

10. มอสซี่ บัสเตอร์ Mozzie Buster

พืชผสมที่ปล่อยกลิ่นไล่ยุงได้ไกลผลพวงจากการผสมพันธุ์ระหว่างเจอเรเนียมและตะไคร้หอม ขนาดเล็กมันจะมีสารที่ดึงดูดยุง แต่เมื่อมันโตเต็มที่สารนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสารไล่ยุงแทน

ที่มา:sanook